วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คุณค่าในตัวเอง

นักพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีท่านหนึ่งได้เริ่มหยุดการสัมมนาของเขา


โดยการหยิบแบงค์ 20 ดอลลาร์ขึ้นมา   
ในห้องที่มีผู้เข้าร่วม 200 ท่าน
แล้วเขาก็พูดว่า
"ใครอยากได้แบงค์ 20 นี้บ้าง?"
มีคนยกมือขึ้นเป็นจำนวนมาก
และเขาก็พูดต่อว่า
"ฉันจะให้เงินแบงค์ 20 นี้แก่หนึ่งในพวกท่าน
แต่ครั้งแรกนี้ฉันจะทำอย่างนี้
" เขาเริ่มที่จะขยำๆเงินนั้น แล้วเขาก็ถามอีกว่า
"ใครจะยังต้องการมันอีก"
ยังคงมีมือที่ยกขึ้นอีก
"ดี" เขาตอบ "แล้วถ้าฉันทำอย่างนี้ล่ะ"
และเขาก็ทิ้งมันลงที่พื้นและเริ่มที่เหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าของเขา

แล้วเขาก็เก็บขึ้นมา ขณะนี้มันทั้งยับยู่ยี่และสกปรก
"ตอนนี้ ใครยังต้องการมันอีก" ก็ยังคงมีคนยกมืออีก

"เพื่อนๆคุณได้เรียนรู้บทเรียนที่มีคุณค่ามากที่สุดบทหนึ่งแล้วว่า
ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเงิน คุณก็ยังต้องการมันอยู่
เพราะว่ามันไม่ได้ลดคุณค่าในตัวมันลงเลย มันก็ยังคงมีค่า 20 ดอลล์อยู่นั่นเอง


เหมือนกับหลายๆครั้งในชีวิตของเรา ที่ถูกทิ้ง,ถูกเหยียบย่ำ
และถูกทำให้สกปรกโดยสิ่งที่เราตัดสินใจทำมัน
และสภาพแวดล้อมที่เราเจอ
ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของเราลดน้อยลง
แต่ไม่ว่าอะไรที่ได้เกิดขึ้น
หรืออะไรที่จะเกิดขึ้น คุณไม่เคยสูญเสียคุณค่าของคุณ
คุณเป็นคนพิเศษ-อย่าลืมมันตลอดไป
!"

" อย่านำความผิดหวังของเมื่อวาน มาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้"

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หนทางสู่ความสำเร็จ

ไม่มีใครนิยมชมชอบความ ล้มเหลวสักราย นอกจากหมดอาลัยตายอยากจริงๆ ทว่าเพิ่งขึ้นต้นเถลิงศกใหม่ทั้งที จะห่อเหี่ย ใจไปทำไม หากตกงานก็ให้มองในแง่ดีว่า อีกไม่นานเราจะได้งานทำ ตั้งมั่นอย่างนี้ สักวันจะสมความปรารถนา ไม่ได้ล้อเล่นนะ พูดจริงๆเหตุนี้ จึงขอหันมาเล่าเรื่อง The Winner's Guide to Success ผู้ชนะแนะวิธีสู่ความสำเร็จในนิตยสาร รีเดอร์'ส ไดเจ็ท ดีกว่าเพราะอย่านึกนะว่า ทุกคนจะประสบความสำเร็จกันง่ายๆ ทำความดียากกว่า สร้างความเลวซะอีก คนดีๆ จึงอยู่ในสังคมลำบากกว่าไงจ๊ะ ไมเคิล เจฟฟรีย์ อารัมภบทในเชิงถามว่า รู้ไหมว่า คนที่ประสบความสำเร็จคิดอย่างไร? หรืออะไรเป็นแรงผลักดันพวกเขา? ดังนั้น เพื่อที่จะได้คำตอบเหล่านี้ หนุ่มเจฟฟรีย์ จึงดิ้นรนไปสอบถามความคิดเห็น จากตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ ในหลายสาขาอาชีพ แล้วนำมายำรวมกันกลายเป็นแรงจูงใจ 7 ประการดังนี้ 



1. บอกกับตัวเองว่า อนาคตขึ้นอยู่กับความคิด และการกระทำของคุณเอง ไม่ต้องไปรอให้ชะตากำหนดหรือฟ้าลิขิต และยิ่งจะดีขึ้นอีก ถ้าไม่ต้องไปฟังใคร โดยเฉพาะพวกที่ชอบดูถูกดูหมิ่นเราว่า ไม่มีทางทำอย่างนี้ได้หรืออย่างนั้นได้ ใครจะไปรู้จักเราจริง พวกนี้มีปากก็พูดได้ทุกอย่าง แต่ไม่จริงเสมอไปจำไว้เลย เว้นแต่ใจของคนฟังไม่เข้มแข็งพอ คุณก็จะเป็นอย่างที่เขาบอก

2. วางเป้าหมายให้ชีวิต เช่น จะทำงานอะไร หรือมีชีวิตคู่อย่างไร ใช้สติกำหนดไว้แต่เนิ่นๆ 

3. เมื่อมีเป้าหมายก็ต้อง มีการวางแผน ทำอย่างไรถึงจะได้ดั่งใจ ขอเพียงอย่าเขียนแผนมั่วเป็นใช้ได้

4. อย่าจับเสือมือเปล่า หมายถึง ต้องยอมลงทุนบ้าง เพื่อให้ได้ความสำเร็จนั้นมา ยกตัวอย่าง หากอยากเป็นหมอหรืออะไรก็แล้วแต่ ควรลงแรงและลงสมอง ใส่ใจศึกษาหาความรู้ด้วย ถ้าอยู่เฉยๆ จะเอ็นทรานซ์ติด คณะที่เราชอบได้ไง เช่นเดียวกับถ้าไม่พยายามอะไรเลย ไม่ยอมเขียนจดหมายไปสมัครงาน แล้วบริษัทห้างร้านต่างๆ จะรู้ได้อย่างไรว่า มีคุณอยู่ในโลกหรือจะติดต่อกับคุณอย่างไร

5. ทำสิ่งใดก็ควรรู้จริงในสิ่งนั้น อย่ารู้แบบเป็ด เพราะคนที่คู่ควรกับความสำเร็จ ต้องฝึกฝนจนมีทักษะสุดยอด ในงานที่ทำถึงจะถูก 

6. อย่าท้อถอยง่ายๆ บอกตั้งแต่ต้นแล้วไงว่า ของแบบนี้ทำได้ยาก ต้องเผื่อใจไว้ด้วย

7. อย่าชักช้า ลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจเสียแต่บัดนี้ หากโอ้เอ้คงได้หรอก ความสำเร็จน่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทะเบียนรถ


พอพูดถึง ทะเบียนรถ ก็เกิดอาการอยากได้รถขึ้นมาเชื่อเหลือเกินว่าเวลาซื้อรถเราคงต้องการ ทะเบียนรถ ที่สวยแค่นั้นยังไม่พอนะคะ ทะเบียนรถสมารถให้ความหมายได้หลากหลาย เคยอ่านเจอในข่าวหน้าหนึ่งที่เขาบอกว่า ทะเบียนรถอาถรรพ์ ซึ่งจะประกอบเลขทะเบียน --- --- --- 000 000 000 ถ้าเกิดเราโชคไม่ดีซื้อไปแล้วทะเบียนรถกลับไม่ตรงต่อวันเดือนปีเกิดของเราก็อาจทำให้เราเป็นอันตรายได้โดยไม่รู้ตัว เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็ไม่ควรที่จะละเลยในการเลือกทะเบียนรถนะคะ พอรู้ไปบ้างแล้วคราวนี้ไปดูความหมายของคำว่า ทะเบียนรถ กันดีกว่าคะ


ป้ายทะเบียนรถ (อังกฤษ: Vehicle registration plate) เป็นแผ่นป้ายทำจากโลหะหรือพลาสติก มีเลขทะเบียนรถ เพื่อใช้ในการระบุรถยนต์หรือยานพาหนะทางบกประเภทอื่น ๆ
ป้ายทะเบียนรถในประเทศไทย
ป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลในประเทศไทย ปัจจุบันทำจากอะลูมิเนียม มีขนาด 13.5 x 6 นิ้ว พื้นป้ายมีลักษณะสะท้อนแสง ตัวอักษรและตัวเลขจะถูกปั๊มนูนออกจากผิวหน้าของป้ายทะเบียน ทำให้ด้านหลังของป้ายนั้นบุ๋มเว้าลงไปตามหมายเลขทะเบียนด้วยเช่นกัน ประเภทของป้ายทะเบียนนั้นสามารถใช้จำแนกประเภทการใช้งานรถได้ ดังนี้
1.       ป้ายขาวอักษรดำ คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
2.       ป้ายขาวอักษรฟ้า คือ ป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง
3.       ป้ายขาวอักษรเขียว คือ ป้ายทะเบียนกระบะ
4.       ป้ายเหลืองอักษรดำ คือ ป้ายรถรับจ้าง
5.       ป้ายเหลืองอักษรฟ้า คือ ป้ายรถกระป๊อ
6.       ป้ายเหลืองอักษรเขียว คือ ป้ายรถตุ๊กตุ๊ก
สำหรับป้ายทะเบียนรถอีกประเภทหนึ่งคือป้ายทะเบียนกราฟิก ซึ่งมีขึ้นภายหลังป้ายทะเบียนแบบปกติ ป้ายทะเบียนนี้จะมีพื้นหลังเป็นรูปภาพ สำหรับเลขทะเบียนรถที่มีลักษณะพิเศษ (เลขสวย) เช่น ฌร 9999 ซึ่งเลขทะเบียนเหล่านี้จะถูกเปิดประมูลโดยกรมการขนส่งทางบก ป้ายทะเบียนชนิดนี้จะมีภาพพื้นหลังป้าย ที่สื่อถึงจังหวัดนั้นๆ เช่น กรุงเทพมหานคร จะมีรูปวัดพระแก้ว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานพระราม 8 เป็นพื้นหลัง เป็นต้น ปัจจุบันมีการเปิดประมูลป้ายทะเบียนกราฟิกเฉพาะที่เป็นทะเบียนของรถยนต์นั่ง ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง เท่านั้น

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เส้นขนาน

คนบางคน......
ได้รักได้รู้จักกับใครสักคน...
แต่แล้ว....ก็มีอันทำให้คนสองคนเป็นได้แค่เพียงเส้นขนาน
ที่ไม่อาจบรรจบลงเอยกันได้
ด้วยเพราะใครสักคนอาจมีพันธะกับคนอีกคนก่อนอยู่แล้ว

 


คนบางคน......

เลือกที่จะเป็นเพียงเส้นขนานกับใครสักคน
แม้ต้องแบกรับความรักที่ท่วมท้นในใจอย่างเจ็บปวด....เงียบๆเพียงลำพัง....
ด้วยตระหนักว่า การเป็นเพียงเส้นขนานกันในวันนี้
จะทุกข์เพราะรักมักอยากอยู่ชิดใกล้กับคนที่รัก
แม้จะยึดมั่นในความรัก....................

แต่ก็ยึดมั่นในความถูกต้องเช่นเดียวกัน...........
บนเส้นขนานที่อาจดูอ้างว้าง เจ็บปวดและว้าเหว่ สับสนและปวดร้าวในใจ
แต่บนเส้นขนานที่เดียวดายเส้นนี้..................

คนบางคน.....

เรียนรู้ เข้าใจ ใน ความรัก มากขึ้น ว่า...
ความรักหากได้มาด้วยการรดน้ำพรวนดินด้วยความผิด
กิ่งก้านที่แตกดอกออกผล ล้วนแล้วแต่..............
คือร่องรอยของความเจ็บปวดและความทุกข์................


คนบางคน......

ยังคงยืนหยัด กับวันเวลาบนเส้นขนานสายนี้ที่เลือกแล้ว
ด้วยเพราะความรักและใครสักคนยังคงอยู่ในใจตลอดเวลา
อยู่กับคืนวันที่ผ่านไปและกับความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิต
บนเส้นขนานที่เดียวดายเส้นนี้ วันหนึ่ง...อาจมีใครสักคนร่วมทาง...
อาจเป็นใครคนเดิม อาจไม่ใช่....หรืออาจไม่มี...

คนบางคน......

บอกกับตัวเองอย่างมีเกียรติและภาคภูมิใจว่า "เราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
เพียงแค่นี้ ความสุขบนเส้นขนานก็ดูจะไม่ร้างลาและเดียวดายอย่างแน่นอน
อาจดูเป็นเรื่องง่ายๆที่จะทำ แต่ไม่ง่ายนักกับการลงมือทำ
แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะทำ.................................
ขอเพียงไม่ตามใจตัวเองอย่างเพลิดเพลิน ..คนบางคนก็รู้ว่าตัวเองทำได้
ในชีวิตของคนเรา เราอาจเคยเป็นทั้งผู้เลือกและผู้ถูกเลือก
จะช้าหรือเร็ว จะมากหรือน้อย สักวันเราก็ต้องเลือก
หากมีโอกาสได้เลือก จงเลือกให้รอบคอบและถูกต้องที่สุด
อาจไม่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่อย่างน้อยเราก็ได้เลือกอย่างถูกต้องที่สุดแล้ว

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

มหัศจรรย์แห่งชีวิต

๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน ?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ


๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี ?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงคราม ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี ?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข
๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน ?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน
รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน
๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา ?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง
๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ
ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา
๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้
๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี ?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน
สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ
๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร ?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม
คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้
เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา
๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี ?
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด
จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่
๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย ?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง
คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย
๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม ?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ
แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า
๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน ?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน
ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน
๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ
๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง
๑๖. สวดมนต์บทไหนดี ?
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า
จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้ คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง
๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี ?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก ?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน
๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม ?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน
๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบ

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เกมส์แข่งรถ


ถ้าพูดถึงเรื่องเกมส์แข่งรถ หรือว่าเกมส์แข่งรถเชื่อว่าหลาย ๆ คนหรือเกือบทุกคนสำหรับหนุ่ม ๆ รับรองได้เลยว่าคงไม่เคยไม่มีใครเคยเล่นเกมส์แข่งรถกัน และถ้าจะให้อธิบายถึงความสนุก ความมัน ความสะใจ แล้วละก็คงพูดไม่หมดวันนี้แน่เลย เพราะอะไรงั้นเหรอครับ ก็เพราะว่ามันสนุกเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้ไงล่ะครับ


           
            ในยุคปัจจุบันนี้วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะเดินตามความทันสมัยของโลกเราที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ในหัวใจของนักวัยรุ่นก็คือ การแข่งรถหรือว่า แข่งรถ นั่นเอง ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนผันไปนานแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่เคยเปลี่ยนสิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นกันประจำก็คือ การแข่งรถตามท้องถนนในยามกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วันหนุ่ม วัยกลาง หรือแม้แต่เด็ก ๆ คงยังคงมีให้เห็นเป็นประจำเสมอ

            จากคำบอกเล่ามาปากต่อปาก ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย เขาว่ากันว่า การแข่งรถ มีส่วนหนึ่งที่มาจาก การต้องการพิสูจน์ว่าใครใหญ่ที่สุดในกลุ่ม หรือว่าในหมู่นั่นเอง แต่นั้นก็ไม่ใช่ประเด็นโดยตรงเสมอไป เพราะการแข่งรถ ได้รับความนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการท้าทายความรู้สึก ต้องการบอกให้คนนี้ คนโน้นรู้ว่าเรานี่เหละ คือคนที่ไม่กลัวใคร เรานี่เหละคือคนที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มนี้พอนานเข้า นานเข้า เทคโนโลยีได้นำตรงส่วนหนึ่งมา ทำเป็น เกมส์แข่งรถ หรือ เกมส์แข่งรถ ให้ได้เล่นกันในยุคปัจจุบัน จงได้รับความนิยมในกลุ่มของวัยรุ่นมาตลอดยุคต่อยุค
                   
                     ถูกใจกันไปเลยนะครับสำหรับคอนักซิ่ง อยากจะแต่งให้แรงให้สวยขนาดใหนก็ทำได้งานดาย เพียงคุณคิดว่าคุณมีฝีมือจริง เชิญเข้ามาร่วมประลองความเร็วกับพวกเราชาวๆแก็งนัหซิ่ง วิ่งกันให้ป่วนเมืองไปเลย  วีธีการเล่นก็ง่ายๆพียงแค่คุณเข้ามาสมัครกับทางเว๊ปแข่งรถของเรา จากนั้นก็เตรียมตัวโมรถของคุณแล้วเตรียมมาลงสนามแข่งกับพวกเราได้เลยครับ  แต่งรถให้สวย แต่งรถให้แรง  แต่งให้สุดได้ดั้งใจ ได้ที่นี่กันเลย

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สิ้นสุดแล้วเริ่มต้นใหม่ได้

บ่อยครั้งที่ชีวิตผิดพลาด ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เรามักจะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับความผิดพลาดนั้น ซ้ำเติมตัวเองให้ทุกข์ ให้เสียใจ และพยายามจะสร้างคำถามเพื่อค้นหาคำตอบให้ตัวเองอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าคำตอบที่สร้างขึ้นมานั้น มัน “ ไม่ใช่ความจริง” ที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากความเสียใจนั้นได้เลย



เราจึงยอมติดกับดัก ความเสียใจอย่างถอน ตัวไม่ขึ้น และกลายเป็นทาสของมันอย่างรู้ตัว รู้ว่าเสียใจแต่ก็ไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมา และเราก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่ทำไมเรายังเป็นทุกข์กับการเลือกที่จะเสียใจ และทำชีวิตให้มันแย่ลงกว่าเดิมทุกวันๆ ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ารสชาติของมันสุดแสนจะขมขื่นมากมายเพียงใด

เพราะ “ เราเริ่มต้นใหม่ไม่เป็น

เรา เลยยังทุกข์ระทมไปกับความผิดพลาดของ ชีวิต สิ้นสุดแล้วแต่ก็เริ่มต้นใหม่ไม่ได้ ไปไม่เป็น เหมือนจะมองเห็นทาง แต่ก็เลือกที่จะปิดหู ปิดตา และไม่พยายามจะเปิดใจ เราจึงต้องอยู่กับความเศร้าเสียใจอยู่ทุกคืนทุกวัน ตอกย้ำความผิดพลาดให้ตัวเองอยู่อย่างนั้น

“Sunflower, sunflower, standing straight and tall,

Sunflower, sunflower, you’re the tallest flower of them all!

Sunflower, sunflower, when your seeds fall to the ground ,

Sunflower, sunflower, they’ll be found!”

ทานตะวันตระหง่านสูง

เจ้าช่างเป็นดอกไม้ที่สูงใหญ่

เมื่อเมล็ดร่วงหล่นสู่ผืนดิน

เราจะพบเจ้าอีกครั้ง... ดอกทานตะวัน


ลอง มองดูวิถีดอกทานตะวันบ้างสิ ชีวิตมีแต่ความเบิกบาน เพราะรู้จักที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับแสงตะวัน แสงสว่างที่ส่องนำทางให้ชีวิตทุกชีวิต “ ยังคงมีชีวิต” แม้ยามที่ดอกทานตะวันร่วงโรย ก็ยังคงทิ้งเมล็ดพันธุ์ให้เจริญเติบโตงอกงามและรับแสงตะวันได้ใหม่อีกครั้ง

เพราะ ฉะนั้นเราต้องไม่ ปิดตัวเอง แล้วจมอยู่กับความคิดที่ว่าชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการเศร้าเสียใจ แล้วปล่อยให้ชีวิตมันไหลไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีคุณค่าและไร้จุดมุ่งหมาย จงใช้ชีวิตให้เป็นดั่งเช่นดอกทานตะวัน แม้ยามผิดพลาด เสียใจ ก็จะมีทางออกของชีวิตเสมอ อับจนหนทางอย่างไร แสงสว่างจากดวงตะวันก็จะคอยส่องทางให้เราได้พบเจอทางออก

ชีวิตเราจึงมีทางออก ตราบใดที่บนโลกใบนี้ยังมีทิศตะวันออก

แม้ ว่าชีวิตจะยังมืดมน จะยังคงจมอยู่กับความผิดพลาด เศร้าใจ ก็จงเศร้าให้ถึงที่ สุด เสียใจ ก็จงเสียใจเสียให้พอ หากยังร้องไห้ ขอให้ระบายน้ำตาออกมา อย่ากักเก็บมันไว้ เมื่อเราเสียใจอย่างถึงที่สุดแล้ว เราต้องกล้าลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง และพร้อมที่จะเป็นคนใหม่ ที่ใช้บทเรียนจากอดีตเป็นเหมือนเข็มทิศคอยช่วยบอกทางแก่ชีวิต เพราะ...

“ ความเศร้านั้นมีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง ข้อเสียคือทำให้เราโศกาอาดูร

แต่ข้อดีของมันคือ... สอนให้เรารู้ว่าเราจะไม่ผิดพลาดตรงนี้อีก

เราจะต้องไม่ร้องไห้ให้กับมันอีก”


ใคร บางคนเคยบอกเอาไว้ตอนที่เสียใจกับความผิดพลาดของชีวิตเพราะ ฉะนั้นแล้วเกิดเป็นคน มีความรู้สึกรู้สาเหมือนกันหมด สามารถเศร้าเสียใจกับอดีตที่ผิดพลาดได้เหมือนกันหมด และก็เริ่มต้นใหม่เหมือนกันหมดเช่นเดียวกัน ขอเพียงกล้าที่จะเป็นนกปีกหักที่พร้อมจะรักษาตัวเอง และออกเดินทางได้โดยไม่กลัวว่าหนทางข้างหน้าจะผิด พลาดซ้ำสอง อย่าลืมนะว่า ...

เรามีโอกาสผิดพลาดได้บ่อยครั้งเท่าไหร่ เราก็เดินถูกทางมากขึ้นเท่านั้น

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คุณจะคิดถึงใครเมื่อคุณเศร้า

มีชายคนหนึ่ง รักผู้หญิงสองคนพร้อมๆ กัน
และไม่รู้ว่ารักใครมากกว่ากัน
มีคนสอนว่า เมื่อคุณมีเรื่องสุขใจ
ใครกันเล่าเป็นคนแรก ที่คุณคิดจะบอก?
คนที่คุณคิดถึงก่อนคนแรก แท้จริงคือ คนที่คุณรักมากกว่า(หน่อย)
ไม่.. นี่ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะพิสูจน์ความรัก



เวลาที่คุณมีเรื่องทุกข์ใจ ใครกันเล่าที่คุณ คิดถึงก่อน?
คนที่คุณคิดถึงก่อนนั่นแหละคือ คนที่คุณรักมากกว่า หากคนที่คุณคิดถึงก่อนทั้งเวลาสุข และทุกข์คือ คนๆ เดียวกัน
นั่นคือสิ่งที่วิเศษสุด
แต่หากว่าเป็นคนละคนกัน
เราแนะนำให้คุณเลือก
คนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณ เวลาคุณมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ

ชีวิตคนเราทุกข์มากกว่าสุข เวลาคุณมีความสุข
มีคนมากมายที่พร้อมจะแบ่งปันความสุขกับคุณ
ไม่เพียงแต่เฉพาะแฟนสุดที่รัก แม้กระทั่งเวลามีความสุข
คุณยังสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้
แต่ไม่ใช่จะทุกคนที่พร้อมจะแบ่งปันความทุกข์ของคุณ
คนที่คุณพร้อมแบ่งปันความทุกข์ด้วย
แท้จริงคือ คนที่คุณต้องการมากที่สุดและอยากอยู่ใกล้ชิดมากที่สุด


ในทางกลับกัน คนที่คิดถึงคุณเวลามีความสุข
และไปหาผู้อื่นเวลามีความทุกข์ เป็นคู่รักที่ไม่มั่นคงเอาเสียเลย
เพราะเขาคนนั้นไม่คิดจะให้คุณเป็นคู่รัก
ที่อยู่ร่วมทุกข์สุขด้วยตลอดชีวิต
เราคงดีใจถ้าหากคนที่เรารัก
คิดถึงเราก่อนในเวลาที่เขามีความสุข
แต่ถ้าอยากอยู่ใกล้ชิดเราเวลาที่เขามีความทุกข์เศร้า
พร้อมให้เราเห็นตัวเขาในสภาพที่เขาอ่อนแอทุกข์ร้อน
เราเชื่อว่าเราต้องมีความสำคัญมากๆ ในสายตาของเขา
.............
ในเวลาที่คุณมีความทุกข์เศร้า คุณคิดแบ่งปันกับใคร?

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

มหัศจรรย์แห่งชีวิต

อ่านดูแล้วได้แนวคิด ได้อะไรหลายๆๆอย่าง ลองอ่านกันดูครับเผื่อนำไปประยุคต์ใช้ ให้กำลังใจในการดำเนินชีวิต




๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ

๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงคราม ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดีี?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข

๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน
รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน

๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง

๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ
ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา

๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้

๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน
สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ

๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม
คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้
เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา

๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี?

(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด
จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่

๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง
คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย

๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ
แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า

๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน
ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน

๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน
ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ

๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง

๑๖. สวดมนต์บทไหนดี?
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า
จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้
คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง

๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส
เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด

๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน

๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน

๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

1. มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากดูหนัง คุยโทรศัพท์ งอน ง้อ




2. มีเวลาอยู่กับเพื่อนมากขึ้น

3. กลับบ้านดึกก็ได้ไม่ต้องโทรรายงานใคร

4. ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ถึงจะไม่สุขมากแต่ก็ไม่ทุกข์แล้วกัน

5. ประหยัดค่าใช้จ่าย แบบว่าไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ไม่ต้องคอยซื้อของขวัญอะไรให้ใคร

6. ร้องเพลงคนไม่มีแฟนของพี่เบิร์ดได้อย่างสะใจ มันในอารมณ์อย่างสุดๆ

7. ไม่ต้องคอยเอาใจคนอื่น

8. ไม่ต้องพบเพื่อนของแฟนที่เราไม่อยากรู้จัก

9. ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาแย่งแฟนเรา

10. มีคนคอยเป็นห่วงเยอะ (และคอยถามว่าทำไมไม่มีแฟน)


11. ไม่ต้องคอยหึงหวง ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นอีกเยอะ

12. ไม่ต้องห่วงว่าเค้าจะสบายดีรึเปล่า

13. มีเวลาให้ตัวเองเต็มที่

14. ไม่ต้องฟังคำว่า "อนาคตของเราและรักแท้"

15. ไม่ต้องอกหัก อันนี้สำคัญมาก

16. ไม่ต้องกังวลว่าวันนี้จะใส่ชุดอะไรดีถึงจะถูกใจเขา

17. ไปหาเพื่อนน่ะแต่งตัวแบบไหนก้อได้

18. ไม่ต้องคอยเช็ค sms เผื่อว่าเขาส่งมาแล้วยังไม่ได้ส่งกลับ (เฮ้อออ....เปลืองอ่า)

19. อยากหิ้ว อยากจิก ใครก็ได้ไม่มีคนคอยตามประกบ

20. พ่อแม่จะรักเป็นพิเศษเพราะอยู่ติดบ้าน


21. ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเอง เพื่อเอาใจเขา

22. ไม่ต้องรอคำสัญญาที่มันไม่เป็นความจริง

23. ไม่ต้องคิดมาก

24. มีทางเลือกให้กับชีวิตเพิ่มขึ้น

25 .....ไม่ต้องร้องไห้.....

26. ได้ทำตามใจตัวเองอย่างเป็นสุขไม่ต้องกังวลถึงเขา

27. คิดถึงคนหลายๆ คนพร้อมกันได้

28. คิดถึงตัวเองมากขึ้น

29. ชินกับการอยู่บ้าน เพราะไม่มีแฟนชวนเที่ยว

30. เล่นเน็ต เล่นเกมส์ได้นานสะใจ จะคุยกับใครก็ได้ม่ายมีใครหวง


31. มีเวลาดูละครน้ำเน่าช่อง 7 ช่อง3 ช่อง 5 และ ITVมากขึ้น

32. เข้าถึงพระธรรมได้ง่ายขึ้น (แต่ไม่ยักกะทำ)

33. ไม่ต้องคอยโทรศัพท์

34. ไม่ต้องเปลืองค่าโทรศัพท์โทรหา

35. จะเหล่ใครก็ไม่มีใครว่าเพราะยังไม่มีใครถูกใจ

36. ไม่ต้องคอยระแวงว่าคนที่เดินข้างๆ จะเป็นใคร

37. จะทำอะไรก็ได้

38. ไม่โดนเพื่อนด่าว่า "ลืมเพื่อน"

39. คิดถึงใครก็ได้ที่อยากจะคิด

40. ไม่ต้องโบ๊ะหน้าสวย, หล่อทั้งวัน


41. ไม่ต้องปกปิดด้านชั่วของตัวเอง

42. ไม่ต้องดัดเสียงให้ไพเราะและฟังดูน่ารัก

43. จะทำอะไรไม่ต้องเกรงใจแฟน

44. ใครจะจีบก็จีบไปเพราะเรา "ไม่มีแฟน"

45. ร่างกายแข็งแรงเพราะเอาเวลาไปเล่นกีฬา ออกกำลังกาย

46. สามารถคุยกับสาวๆ หนุ่มๆ ที่สนใจได้โดยไม่รู้สึกผิดเพราะไม่มีแฟน

47. ไม่ต้องร้องเพลงอกหัก

48. ประหยัดนํ้าตาไว้ร้องไห้เรื่องอื่น

49. ไม่ต้องคอยไปรับไปส่งใคร

50. ไม่ต้องเสียเวลาเขียนไดอารี่ตอนอกหักหรือตอนถูกทิ้ง
ขยิบตา