วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

ทายใจจากสีลิปสติก

สำหรับสาวๆที่ชื่นชอบการแต่งแต้มริมฝีปากด้วยสีสัน ของลิปสติกหลากสี แน่นอนว่าสีที่คุณชอบทานั้น สามารถบ่งบอกได้ถึงนิสัยใจคอของคุณได้เป็นอย่างดี....ใครชอบทาลิปสติกสีอะไร ลองมาลุ้นกันว่าจะตรงหรือกับตัวคุณหรือเปล่าค่ะ
สีแดงเข้ม บ่งบอกได้ว่า คุณรักความสะดวกสบาย ฟุ่มเฟือย ถ้าเป็นแบบหรูหรา แล้วละก็จะร่าเริง นอกากนี้ยังเป็นสาวมั่นใจ & ทันสมัย


สีชมพูเข้ม บ่งบอกได้ว่า คุณเซ็กซี่และมีความสนุกสนาน หรูหรา คุณนั้นแหละที่สามารถสะกดใจชายหนุ่มได้อย่างไม่อยาก

สีน้ำตาลอ่อน บ่งบอกได้ว่า คุณมีพรสวรรค์ทางธุรกิจ และยังเป็นเลิศในการรักษามิตรภาพไว้ได้อย่างแนบแน่น

สีคราม บ่งบอกได้ว่า คุณกำลังมีความเศร้าอยู่ตอนนี้

สีม่วงเข้ม บ่งบอกได้ว่า คุณใจดีแต่ขี้ตกใจง่าย ไม่ชอบอยู่ในครอนโทลของใครๆ ขณะเดียวกันคุณรู้อยู่เสมอว่า คุณมีเส้นทางของตัวเอง

สีน้ำตาลเข้ม บ่งบอกได้ว่า คุณเป็นคนลึกลับ แต่มีเสน่ห์และปากหวาน

สีม่วง บ่งบอกได้ว่า คุณเป็นคนชอบชีวิตแบบผจญภัย ไม่เหมือนใครสักวัน

สีชมพู บ่งบอก ได้ว่า สีชมพูอ่อนหวานบ่งบองถึงความจริงใจ ไม่แสแสร้ง แถมยังซื่อสัตย์ ที่ดีกว่านั้นรู้มั๊ยว่า คุณเป็นคนที่อยู่ใกล้แล้วมีความสุข เพราะชอบทำให้คนอื่นสนุกไปด้วย

สีเหลืองเปลือกไข่ คุณเป็นสาวปริศนา น่าแสวงหาว่าคุณเป็นใคร

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

ไม้มงคล 9 ชนิด ลองอ่านดู

1. ไม้ราชพฤกษ์.....หมายถึง......ความเป็นใหญ่และมีอำนาจวาสนา


2. ไม้ขนุน.............หมายถึง......หนุนให้ดีขึ้น ร่ำรวยขึ้น ทำการสิ่งใดย่อมมีผู้ให้การเกื้อหนุน

3. ไม้ชัยพฤกษ์......หมายถึง......การมีโชคชัย ชัยชนะ ชนะศัตรู และชนะอุปสรรคต่างๆ

4. ไม้ทองหลาง.....หมายถึง......การมีทรัพย์สินและเงินทองใช้ไม่ขาดมือ

5. ไผ่สีสุก.............หมายถึง......การมีความสุขทั้งร่างกาย และจิตใจไร้ทุกข์โศกโรคภัย
6. ไม้ทรงบาดาล....หมายถึง......ความมั่นคง เปรียบเสมือน บ้านเรือนมีความมั่นคงแข็งแรง

7. ไม้สัก...............หมายถึง......ความศักดิ์ศรี ความมีเกียรติ อำนาจบารมี คนเคารพนับถือและยำเกรง

8. ไม้พยุง............หมายถึง......การพยุงฐานะให้ดีขึ้น

9. ไม้กันเกรา.......หมายถึง......ป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ตำเสา ซึ่งอาจหมายถึงทำให้เสาเรือนมั่นคง

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

ห้ามออกกำลังกายเวลามีประจำเดือน

ผู้หญิงคงจะเคยได้ยินว่าห้ามออกกำลังกายเวลามีประจำเดือน แต่รู้หรือไม่ว่าความเชื่อเช่นนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด


ในระหว่างที่เรามีประจำเดือนนั้น เราอาจะมีอาการ ปวดท้อง อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย การออกกำลังกายเป็นประจำนั้น ร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินออกมา สารนี้จะทำให้เราเกิดความสุข ช่วยผ่อนคลายความเครียด และช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ทำให้การไหลเวียนของโลหิตบริเวณกระดูกเชิงกรานดีขึ้นด้วย

แต่ในการออกกำลังกายนั้น เราจะต้องเลือกวิธีการออกที่ถูกต้องและเหมาะสมด้วย

วิธีออกกำลังง่ายๆ

1. จ๊อกกิ้งเบาๆ พอได้เหงื่อเล็กน้อย หรือ ฝึกโยคะ ก็ได้

2. การออกกำลังกายหนัก อาจเป็นผลให้เส้นเลือดฝอยบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกแตก ทำให้ประจำเดือนมามากเกินไป

3. หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ หรือการอาบน้ำเย็นจัด หรือการแช่อ่างอาบน้ำเย็นๆเพราะช่วงนี้มดลูกจะติดเชื้อง่ายและไวต่ออุณหภูมิ หนาว เย็น เมื่อโดนความเย็นอาจทำให้เส้นเลือดบริเวณหน้าท้องหดตัว มีผลให้ประจำเดือนมาน้อยหรือหมดเร็ว

7 สิ่งไม่ควรทำหลังการทานอาหาร

1.อย่าสูบบุหรี่ ...จากผลการทดลองของผู้เชี่ยวชาญ พบว่าการสูบบุหรี่หลังอาหาร เทียบได้กับการสูบบุหรี่ยามปกติถึง 10 มวน (ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งมากขึ้น ซึ่งปกติมีโอกาสเป็นอยู่แล้ว)

2.อย่ากินผลไม้ทันทีหลังอาหาร...เพราะมันไปพองในท้องคุณ ให้กินผลไม้ 1-2 ชม ก่อนหรือหลังอาหารจะดีกว่า

3.อย่าดื่มน้ำชา...เพราะใบชามีความเป็นกรดสูง ทำให้โปรตีนในอาหารที่เรากินกระด้างขึ้นทำให้ย่อยยาก

4.อย่าขยายเข็มขัดหลังกินอิ่ม...เพราะเป็นเหตุให้ลำใส้ไม่ปกติ

5.อย่าอาบน้ำหลังกินข้าว...เพราะการอาบน้ำ จะทำให้โลหิตไหลเวียนไปที่มือและเท้า ทั่วร่างกายเป็นเหตุให้ปริมาณโลหิตไหลเวียนบริเวณท้องเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่

6.อย่าเดินหลังอาหาร ...แม้คุณจะเคยได้ยินว่ากินข้าวแล้วเดินสัก 100 ก้าว จะทำให้อายุยืนถึง 99 ปี การเดินทันที ทำให้การย่อยเพื่อการดูดซึมสารอาหารทำได้ไม่ดี อย่างน้อยสักชั่วโม่งค่อยเดินถ้าต้องการ

7.อย่านอนทันที ...อาหารที่รับประทานเข้าไป ไม่สามารถย่อยได้เต็มที่อาจทำให้
เกิดลมหรือแก๊สในทางเดินอาหาร

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

วิธีประหยัดค่าโทร แบบน่ารัก..ลองทำดูนะคะ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดี..รึป่าวน๊า

1. Save เลขหมายโทรศัพท์ ของแฟน ในมือถือเครื่องของคุณโดย SaveName ว่า คิดถึงเหมือนกัน แทนชื่อแฟนของคุณ


2. Save เลขหมายโทรศัพท์ ของคุณ ในมือถือของแฟนโดย SaveName ว่า คิดถึงนะ แทนชื่อของคุณ

3. เมื่อถึงเวลาที่จะต้องโทรหากัน คุณก็โทรหาแฟนสัก 1 - 2 ตู๊ดแล้ววางสาย ที่เครื่องของแฟนก็จะ Show Miss Call เมื่อ List ดูก็จะพบข้อความว่า คิดถึงนะ

4. เช่นเดียวกัน เมื่อแฟนต้องการจะตอบว่า คิดถึงเหมือนกันก็ให้โทรหาคุณ แล้ววางสาย Show Miss Call เมื่อ List ดู คุณก็จะพบข้อความว่า คิดถึงเหมือนกัน

เท่านี้คุณสามารถก็ประหยัดค่าโทรไปได้อย่างน้อยก็วันละ 6 บาท เก็บเงินไว้พาแฟนไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนดีกว่า

นั่นมันสำหรับแฟนกัน ถ้าแต่งแล้วต้องตามนี้เลย

1. Save เลขหมายโทรศัพท์ ของเมีย ในมือถือเครื่องของคุณโดย SaveName ว่า เองอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับบ้าน แทนชื่อเมีย

2. Save เลขหมายโทรศัพท์ ของคุณ ในมือถือของเมียโดย SaveName ว่า ติดประชุม(โว้ย) แทนชื่อของคุณ

3. เมื่อถึงเวลาเมียตามกลับบ้าน จะต้องโทรหาคุณ คุณไม่ได้รับเพราะ....ก็จะ Show Miss Call เมื่อ List ดูก็จะพบข้อความว่า เองอยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับบ้าน

4. เช่นเดียวกัน คุณก็โทรหาเมียคุณ ๑ ตู๊ด แล้ววางสาย เมียคุณก็จะเห็น Miss Call เมื่อ List ดู คุณก็จะพบข้อความว่า ติดประชุม(โว้ย)

เท่านี้คุณสามารถก็ประหยัดค่าโทรไปได้อย่างน้อยก็วันละ 6 บาท แต่อาจต้องนอนนอกบ้าน

ไม่น่าเชื่อ ส่วนผสม 10 อย่าง ในยาสีฟัน

1.Menthol

เวลาเราแปรงฟันแล้วรู้สึกเย็นในช่องปากก็เนื่องจากยาสีฟันมีเมนทอส(การบูร)มีส่วนผสมอยู่ เป็นมีลักษณะเป็นผลึกใส ไม่มีสี รูปเข็ม ได้จากการสกัดน้ำมันหอมระเหยของต้นไม้บางชนิดเช่น Mentha piperita และ Mentha arvensis หรืออาจได้จากการสังเคราะห์ นิยมใช้เป็นสารแต่งกลิ่นรสในยารับประทาน ยาอม ใช้บรรเทาอาการคัดจมูกหรือหายใจไม่สะดวกในยาสูดดมต่างๆ ในตำรับยาขี้ผึ้ง ครีม หรือเจลใช้ดับกลิ่น หรือทำให้รู้สึกเย็นสบาย หากกลืนหรือกินเข้าไปปริมาณเล็กน้อยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้ากลืนหรือกินเข้าไปจำนวนมากอาจเป็นอันตรายได้

2.Saccharin
ซัคคาริน สารให้ความหวาน หรือขัณฑสกร นั่นแหละครับ ที่บ้านเราออกมาห้ามโน้นห้ามนี้ว่าอย่าใส่ในขนมหรืออาหาร แต่มันดันเป็นส่วนประกอบของยาสีฟันเพื่อให้เกิดความหวาน เป็นสารเคมีให้ความหวานที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นโดยบังเอิญ ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1879 ปัจจุบันสถานะของขัณฑสกรถือว่าปลอดภัย แต่ผู้บริโภคหลายกลุ่มยังไม่มั่นใจนัก เพราะอดีตขัณฑสกรถูกงดใช้ไปหลายครั้ง(อเมริกาพยายามห้ามใช้สารนี้เมื่อปี 1972) นอกจากนี้ขัณฑสกรยังมีรสชาติขมในคอหลังจากกลืนแล้ว โดยเฉพาะเมื่อใช้ในปริมาณที่สูง

3.Titanium Dioxide
ส่วนสีขาวของยาสีฟันนั้นทำมาจากไททาเนียมไดออกไซด์(สารกันแดด) ซึ่งสารนี้เป็นสารเก่าแก่ชนิดหนึ่งเท่าๆกับโลกของเรา และเป็นหนึ่งใน 50ชนิดของสารที่ผลิตมากที่สุดทั่วโลก ลักษณะโดยทั่วไปมีสีขาว นอกเหนือจากใช้เป็นส่วนประกอบของยาสีฟันแล้ว มันยังใช้งานได้หลากหลายเนื่องจากมันไม่มีกลิ่นและมีความสามารถในการดูดซับ ทำให้มีหลายผลิตภัณฑ์ใช้สารนี้เป็นส่วนผสม เช่น สีทาบ้านไปถึงอาหารและเครื่องสำอาง และสารนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของสารสีที่ปลอดภัย ไม่ก่อมะเร็ง ไม่ก่อให้เกิดกลายพันธุ์ ไม่เป็นอันตรายต่อหญิงมีครรภ์ ไม่มีพิษ หากแต่เราก็ไม่ไว้ใจกับสารนี้อยู่ดี

4.Chalk
ส่วนที่เป็นสีขาวของยาสีฟันมีส่วนผสมหลักทำจากผลชอล์กบดละเอียด(แคลเซียมคาร์บอเนต) ที่ทำมาจาก exoskeletons ซึ่งผงชอล์กนั้นเป็นส่วนประกอบของยาสีฟันมาช้านานแล้วในรูปแบบผง(นอกจากนี้ยังมีผงอิฐ ผงถ่าน เกลือ) เนื่องจากผงชอล์กมีส่วนประกอบจากแคลเซียมและหินปูน การสูดดมในระยะยาวจะทำให้มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เกิดการระคายเคือง หลอดลมอักเสบ

5.Glycerine Glycol
คุณเคยได้ยินส่วนผสมนี้อยู่ในแปลงสีฟันหรือไม่ และรู้ไหมว่ากลีเซอรีนไกลคอลนั้นคืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไร กลีเซอรีนไกลคอลเป็นแอลกอฮอล์ที่มีคาร์บอน 3 ตัว มีลักษณะเป็นสารอินทรีย์ที่เป็นน้ำเหนียวไร้สีและไร้กลิ่น เป็นส่วนประกอบของยาสีฟัน(น้ำยาบ้วนปาก, การดูแลผิว, ผลิตภัณฑ์ครีมโกนหนวด, ดูแลเส้นผม, สบู่, น้ำมันหล่อลื่นของสงวน)เพื่อไม่ให้แห้งมากเกินไปและช่วยให้เกิดการหล่อลื่น แม้ว่าสารนี้เป็นเพียงสารแต่งเติมที่ไม่มีอันตรายในยาสีฟัน แต่มันทำให้เกิดอาการคลื่นไส้เมื่อเรากลืนยาสีฟันเข้าไป

6.Paraffin
พาราฟิน หรือ เคโรซีน เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมซึ่งกลั่นแยกออกจากน้ำมันดิบ จุดหลอมเหลวประมาณ 47-64 องศาเซลเซียส จุดเดือดประมาณ 150-275 องศาเซลเซียส ไม่ละลายในน้ำ สามารถใช้ประโยชน์ได้มากมาย และ มีหลายสถานะด้วยกัน เช่น แก๊ส ของเหลว ของแข็ง โดยประโยชน์ของมันมีหลายอย่าง เช่น แบบก๊าซใช้ทำเชื้อเพลิง ของเหลวใช้เป็นยารักษาโรค โดยสารนี้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนประกอบของยาสีฟันที่มีคุณสมบัติใช้ทำเทียนไข ช่วยในการเคลือบผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยขจัดคราบสกปรก โดยหากกลืนสารนี้ไปอาจเกิดอาการปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนและท้องผูกอย่างรุนแรง

7.Peppermint Oil
น้ำมันสะระแหน่ได้มาจากการสกัดน้ำมันจากสาระแหน่โดยวิธีกลั่นด้วยไอน้ำ โดยน้ำมันที่ได้จากการสกัดนี้ใช้อย่างกว้างขวางในอาหาร ยา เครื่องสำอาง ซึ่งยาสีฟันนั้นก็มีการเติมน้ำมันสกัดนี้เพื่อทำให้ มีรสหวานทำให้ยาสีฟันมีรสชาติดีขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดกลิ่นหอมเย็น เมื่อสูดดมทำให้โล่งจมูกรู้สึกสดชื่น อีกครั้งยังช่วยฆ่าเชื้อโรค ส่วนอันตรายจากน้ำมันสาระแหน่ก็คือทำให้ระคายเคืองผิวหนัง และชีพจรปั่นป่วนหากรับประทาน ดังนั้นหลายยี่ห้อมักใส่ในปริมาณความเข้มข้นต่ำ

8.Seaweed
สารคาราจีแนนที่อยู่ในยาสีฟันนั้นมาจากสาหร่ายทะเล สารนี้ทำให้ส่วนผสมนี้เกาะตัวกันข้นเหนียว ทำให้เกิดความลื่นไหลและยืดขยายเป็นเจลเข้าปาก ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดนำสาหร่ายมาใส่ในยาสีฟันเพื่อคุณสมบัติต่างๆ เช่นสาหร่ายไดอะตอมซึ่งเป็นส่วนผสมของยาสีฟันช่วยขัดฟันให้ขาว สาหร่ายสไปรูลิน่าช่วยให้ฟันแข็งแรง

9.Detergent
สารทำให้เกิดฟอง หรือผงซักฟอก เป็นผงที่มีลักษณะเป็นผง เม็ดเล็กๆหรือเกล็ด อัดขึ้นรูป กึ่งแข็งกึ่งเหลว แท่ง หรือลักษณะอื่น ผงซักฟอก เป็นสารซักล้างที่ผลิตขึ้นมาใช้แทนสบู่ ในมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสารลดแรงตึงเพื่อให้เกิดฟองช่วยทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากแต่สารบางชนิดอาจมีผลทำให้เยื่อบุปากเกิดอาการแพ้และหากคุณกลืนสารนี้มากเกินไปอาจมีผลต่อกระเพาะอาหาร ปัจจุบันยาสีฟันส่วนมากไม่ทำให้เกิดฟองมากเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากมีการใช้สารลดความตึงผิวที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยขึ้น

10.Formaldehyde
ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือฟอร์มาลีน สารไร้สีกลิ่นแรงใช้ทำยาฆ่าเชื้อและยากันเน่า ที่เรามักรู้จักสารนี้ในการใช้สำหรับดองศพเพื่อไม่ให้ศพเน่าเปื่อย ใช้ฆ่าเชื้อโรค ฆ่าเชื้อรา และทำความสะอาดห้องคนป่วย โดยฟอร์มาลีนเป็นส่วนประกอบของยาสีฟัน(นอกจากนี้ยังมี ยาบ้วนปาก สบู่ ครีมโกนหนวด) เนื่องจากมันมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียเล็กๆ ในช่องปาก แต่ความเข้มข้นที่ต่ำมาก แต่กระนั้นอันตรายจากฟอร์มาลีนจากยาสีฟันก็ยังคงมีอยู่คือหากกินมากเกินไปอาจทำให้ตับและไตพังและอาจถึงตายได้ โอ้น่าสนุก ลองดูไหม?

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

8 วิธีให้คุณหันมาดื่มน้ำง่ายขึ้น

1. ดื่มน้ำให้เหมือนเป็นกิจวัตร พยายามดื่มน้ำทุกเช้าหลังตื่นนอนให้เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะการดื่มน้ำตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากดื่มน้ำมากไปตลอดทั้ง วัน ทั้งยังช่วยเรื่องการขับถ่ายอีกด้วย


2. บีบน้ำมะนาวใส่นิด ๆ หากคุณรู้สึกแปลก ๆ กับรสชาติที่จืดชืดของน้ำเปล่า ขอแนะนำให้คุณหามะนาวมาบีบลงไปในน้ำเปล่าซักเล็กน้อยก่อนดื่ม เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติให้กับน้ำ

3. ทำให้มันใสอยู่เสมอ หมั่นตรวจดูปัสสาวะของคุณหลังเสร็จธุระ เพื่อให้มั่นใจว่ามันยังใสอยู่เสมอ เพราะความใสนั้นเหมือนเป็นดัชนีวัดว่า ร่างกายของคุณได้รับน้ำอย่างเพียงพอ แต่เมื่อไรก็ตามที่ปัสสาวะของคุณมีสีเหลืองเข้ม นั่นหมายความว่าร่างกายของคุณกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำ

4. ถ้าร้อนนัก ก็ดื่มซะ เมื่อคุณกำลังอยู่ในอารมณ์ที่เดือดดาล ขอแนะนำให้ดื่มน้ำอุ่น เพราะบางครั้งการเลือกเครื่องดื่มก็เป็นเรื่องของจิตวิทยา การที่คุณได้ถือเครื่องดื่มอุ่น ๆ สักแก้วไว้ที่มือ อาจช่วยให้คุณลดอารมณ์เดือดดาลลงได้มากกว่าเครื่องดื่มปกติ ยิ่งกว่านั้น ในกาแฟและน้ำชายังมีสารคาเฟอีน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเพิ่มอัตราการกำจัดน้ำออกจากร่างกายของคุณ ในรูปของปัสสาวะ

5. ดื่มน้ำเมื่อคุณถูกความตะกละจู่โจม บางครั้งความรู้สึกหิวของคนเราก็เป็นความกระหายแบบหลอก ๆ หรือแค่รู้สึกตะกละเท่านั้น ดังนั้นคุณสามารถแก้อาการนี้ได้ด้วยการหาน้ำดื่มซัก 1- 2 แก้ว เพื่อช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนได้กินอะไรรองท้อง

6. เริ่มปฏิบัติจากขั้นตอนง่าย ๆ อย่าคาดหวังว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำได้ จากหน้ามือเป็นหลังมือ คือจากคนที่ไม่ดื่มน้ำเลยมาดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่คุณควรเริ่มจากการดื่มน้ำ 1 แก้วในตอนเช้าของวัน ตามด้วยการดื่มน้ำอีก 1 แก้วก่อนนอนจนเป็นนิสัย จากนั้นค่อยๆเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำระหว่างวันให้มากขึ้น

7. ถูก และ ถูก อย่าลืมว่า น้ำดื่มตามภัตตาคารนั้นมีให้บริการฟรี แบบไม่อั้น

8. หมั่นหาแก้วน้ำที่มีน้ำเต็มแก้ว 1 ใบมาวางไว้ข้างตัวคุณเสมอ ขณะคุณกำลังทำงาน เพราะมันจะทำให้คุณสะดวกต่อการหยิบขึ้นมาจิบไปเรื่อยๆ ขณะทำงานโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเวลาที่คุณต้องสุมหัวคิดงานกับเพื่อน ๆ หรือเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาหากคุณไม่ต้องการให้มือของคุณอยู่ว่าง

เห็นไหมคะว่า การดื่มน้ำไม่ยากอย่างที่คุณคิด และน้ำมีประโยชน์มาก ๆ ในชีวิตประจำวัน อย่าลืมนะคะ หันมาใส่ใจสุขภาพก่อนที่จะสายเกินแก้ เพียงแค่พยายามดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วเท่านั้นค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

ลือ"ยาริส ไฮบริด"มาปีหน้า

เคยมีข่าวออกมารอบหนึ่ง และทางโตโยต้าก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าข่าวการผลิตเวอร์ชัน ไฮบริดของซับคอมแพ็กต์รุ่นยาริสทำท่าว่าจะไม่จบง่าย และน่าจะมีมูลความจริงไม่น้อย เมื่อสื่อในญี่ปุ่นตีพิมพ์ข่าวออกมาอีกระลอกว่า โตโยต้ากำลังเล็งฐานการผลิตในฝรั่งเศส เพื่อใช้ในการผลิตยาริส ไฮบริดออกสู่ตลาด ภายในปีหน้า

รอยเตอร์รายงานโดยอ้างการตีพิมพ์ข่าวของหนังสือพิมพ์ Mid-Japan Economist ซึ่งยืนยันถึงข่าวนี้ ระบุถึงคำกล่าวของแหล่งข่าวภายในที่ว่าทางโตโยต้ามีความต้องการผลิตรถยนต์ไฮบริดราคาถูก หรือ Low-Cost Hybrid Car ออกมาขายในตลาดช่วงเดือนเมษายนปีหน้า และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเลือกยาริส หรือวิตซ์ ในญี่ปุ่นเป็นโมเดลในการพัฒนาครั้งนี้


อย่างไรก็ตาม ในช่าวไม่ได้ระบุว่ายาริสหรือวิตซ์ที่นำมาทำเป็นรถยนต์ไฮบริดจะยังเป็นเวอร์ชันเดิมที่ขายอยู่ในตลาด หรือว่าเป็นโมเดลใหม่ล่าสุดที่คาดว่าน่าจะเปิดตัวในปีหน้าเช่นเดียวกัน ขณะที่ทางโฆษกของโตโยต้า ก็ออกมาปฏิเสธถึงข่าวนี้เช่นเคย พร้อมไม่ขอออกความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัท

ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว ทางหนังสือพิมพ์ของฝรั่งเศส คือ La Tribune ก็เคยเปิดเผยข่าวในลักษณะนี้ออกมา ซึ่งในตอนนั้นมีการระบุว่าโตโยต้าสนใจจะผลิตรถยนต์ไฮบริดขนาดเล็ก โดยมีโรงงานอยู่ที่เมืองวาลองเซียนน์ ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก็คือ ไลน์ผลิตของรถยนต์รุ่นยาริส ก่อนที่ทางโตโยต้าจะกลบกระแสข่าวนี้ ด้วยการออกมาปฏิเสธ แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางโตโยต้าเคยประกาศว่า จะผลิตเวอร์ชันไฮบริดให้กับรถยนต์ทุกสายพันธุ์ที่อยู่ในตลาดภายในปี 2020 โดยจะออกขายคู่กับรุ่นธรรมด เพื่อเป็นอีกทางเลือกก็ตาม

สำหรับข่าวนี้ถือว่ามีส่วนทำให้ตลาดรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ในญี่ปุ่นและยุโรปมีความคึกคักขึ้น เพราะในงานปารีส มอเตอร์โชว์ ปีนี้ ทางฮอนด้าก็จะนำแจ๊ซ/ฟิต ไฮบริดออกเปิดตัวในตลาด ก่อนที่จะส่งขายในญี่ปุ่นเดือนตุลาคมนี้พร้อมกับรุ่นปรับโฉมของแจ๊ซ/ฟิตเครื่องยนต์ปกติ

และถ้าข่าวนี้เป็นความจริง ยาริส ไฮบริดจะกลายเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 2 ซึ่งประกอบจากโรงงานในยุโรป และรุ่นแรกที่ขายไปแล้ว คือ โตโยต้า ออริส ไฮบริด หรือ HSD ซึ่งประกอบที่โรงงานในประเทศอังกฤษ

ลองอ่านนะเพราะ มีประโยชน์

1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง


2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว

3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด

4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี

5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง

6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ( ปลาโอ ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง ) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง

7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป

8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี ( ไม้เมืองหนาว ) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้

9. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้

10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้

11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี

12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย

13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง

14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดี

15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน

16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้

17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก

18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี “ โมโรอันแซตเทอเรต “

19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่ายพืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี

20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ต้นกำเนิดของ 7-11



ไหนๆก็เป็นคนรัก 7-11กันแล้ว เรามารู้จักต้นกำเนิดของ 7-11 กันหน่อยดีไหม


เรื่อง มันเกิดที่เมือง ดัลลาส รัฐเท็กซัส ในปี พศ 2470 โดยนาย โจ ซี ทอมสัน ผู้ซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัททำน้ำแข็งชื่อSouthland Ice นายโจที่ว่านี้มีนิสัยขยันขันแข็ง แบ่งเวลาทำงานมาหาเงินเพิ่มโดยการขาย นม ไข่ไก่และขนมปัง โดยขายที่ที่ขายน้ำแข็งนั้นแหละ

ถึงแม้ตอนนั้นร้านขาย ของชำก็จะมีกันอยู่ทั่วไปอยู่แล้ว แต่นายโจของเราค้นพบว่า การขายนมกับไข่ในที่ๆใกล้กับน้ำแข็งได้รับความนิยมจากประชาชนเพราะมันทำให้ นมและไข่ไก่สดกว่าที่ขายกันในร้านขายของชำทั่วไป

ต่อมานายโจ จอมขยันก็ตัดสินใจซื้อกิจการ Southland Ice มาเป็นของตัวเองซะเลย และก็เปิดร้านขายของอยู่ทุกแห่งที่โรงงานทำนำ้แข็งของเขาตั้งอยู่ ในแถบดัลลาสนั่นแหละ

เริ่มแรกร้านขายของของตาโจ ขายในช่วงเวลาแปลกๆที่ไม่มีใครเขาทำกันคือ
7 โมงเช้าถึงห้าทุ่ม หรือ11 น.ตอนกลางคืน มันก็เลยกลายเป็นที่มาของชื่อ 7-Eleven ในปี2489นั่นเองและนายโจก็ขยายสาขาไปเรื่อยจนมีครบ 100 สาขาในปี 2495ในปี 2504 ทางร้าน 7-Eleven ก็ทดลองเปิด 24 ชั่วโมงเป็นครั้งแรกที่เมือง ออสติน รัฐเท็กซัส

ต่อมาในช่วงปี ทศวรรษปี 80 หรือประมาณช่วงปี 2523 กิจการของ 7-11 ประสพปัญหาทางการเงินจึงได้ทำการขายให้ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นชื่อนาย อิโต โยกาโดะ นายอิโต ได้ก่อตั้งบริษัท Seven & I Holdings ขึ้นมาเพื่อรับกิจการของ 7- Eleven ทั้งหมดมาทำการบริหาร แถมยังประกาศก้องเลยว่าจะเข้าไปทำการขยายสาขาอีกสัก 1000 สาขาในอเมริกาเสียเองเลย

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

บิกินี ชื่อนี้มาจากนิวเคลียร์


เมื่อก่อนบิกินีเป็นสิ่งที่ล่อแหลมมาก

ถึงเดี๋ยวนี้ก็เถอะ ผู้หญิงธรรมดา ๆ ใครจะกล้าใส่บิกินีลงเล่นน้ำ

ในช่วง ค.ศ.1930-1939 ชุดว่ายน้ำเริ่มเปิดเผยเนื้อตัวของผู้สวมใส่มากขึ้นทุกที ๆ
จากชุดเปิดหลังพร้อมสายคาดบ่าเส้นเล็ก ก็พัฒนามาสู่ บิกินี

ชื่อของแฟชั่นชุดว่ายน้ำแบบใหม่ล่าสุดนี้
กี่ยวพันอย่างแนบแน่นกับจุดเริ่มต้นของยุคนิวเคลียร์

วันที่ 1 กรกฏาคม ค.ศ.1946 สหรัฐอเมริกาเริ่มทำการทดลองนิวเคลียร์ในยามสงบ
โดยทิ้งระเบิดปรมาณูลงบน เกาะประการังบิกินี
ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กในแนวหมู่เกาะมาร์แชลในมหาสมุทรแปซิฟิก

เนื่องจากระเบิดปรมาณูที่ทดลองครั้งนี้เป็นชนิดเดียวกับ
ที่ถล่มเมืองฮิโรชิมา และนางาซากิจนราบคาบเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา
สื่อมวลชนทั่วโลกจึงให้ความสนใจกับข่าวทดลองนี้เป็นอย่างมาก

ในเวลาเดียวกับที่กรุงปารีส หลุยส์ เรอาด์ นักออกแบบชื่อดังของฝรั่งเศส
กำลังเตรียมนำผลงานล่าสุดออกแสดงเป็นชุดว่ายน้ำแบบสองชิ้น
ซึ่งปกปิดร่างกายของผู้สวมใส่น้อยมากจนน่าใจหาย
เรอาด์ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้ชุดว่ายน้ำแบบนี้เลย

หนังสือพิมพ์ทุกฉบับประโคมข่าวการทดลองระเบิดปรมาณูที่เกาะบิกินี
เรอาด์อยากให้ผลงานออกแบบของเขาเรียกความสนใจจากสื่อมวลชน
ได้มากพอ ๆ กับข่าวการทดลอง
เขาเชื่อว่าชุดว่ายน้ำแบบใหม่นี้น่าจะดังระเบิด เช่นเดียวกัน
เขาจึงเลือกใช้ชื่อว่า บิกินี ซึ่งกำลังติดปากประชาชนทั่วไปอยู่

วันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ.1946 สี่วันหลังจากการทดลองระเบิด
นางแบบชั้นนำ มิชาลิน เบอร์นาดี ออกเดินแบบ
ในชุดบิกินีชุดแรกในประวัติศาสตร์แฟชั่น

วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

อาหาร 6 อย่าง เพื่อฟันสวย



1. แอปเปิ้ล รสหวานลิ้น ไม่เหนียว ช่วยเรียกน้ำลายได้ดี เพราะน้ำลายคือ กลไกธรรมชาติที่ร่างกายใช้ชะล้างเศษอาหารและปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างในปาก


2. แครอท ความกรอบจะช่วยให้เหงือกสะอาดและฟันแข็งแรง ช่วยกำจัดเศษอาหาร มีเส้นใยช่วยให้ปากสะอาด ช่วยเรียกน้ำลาย

3. แครนเบอร์รี่ มีสารประกอบที่สามารถป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเกาะติดฟัน และสกัดกั้นการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์

4. กีวี เป็นหนึ่งในสิบของสุดยอดอาหารเพื่อความงาม มีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงฟัน

5. ลูกเกด คืออาหารที่นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยด์ในชิคาโก สหรัฐอเมริกาพบว่า มีกรดโอเลียโนอิก ซึ่งเป็นสารพฤษเคมีที่การทดลองในห้องแล็ปพบว่า ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก โดยกรดโอเลียนิกที่ความเข้มข้น 31 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ช่วยป้องกันแบคทีเรีย เอส.มิวแทนส์ไม่ให้เกาะผิวฟัน และที่ความเข้มข้น 62 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อพอร์ฟีโรโมนาส กิงกิแวลิส อันเป็นตัวการสำคัญของโรคเหงือกอักเสบ

6. วาซาบิ ซึ่งจากผลการวิจัยเบื้องต้นพบว่า วาซาบิมีสารไอโซธิโอเซียเนต ซึ่งยับยั้งการเติบโตของเชื้อ เอส.มิวแทนส์

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

แป้ง ประโยชน์ที่มากกว่าใช้โรยตัว

ช่วยทำให้ใส่ถุงมือพลาสติกได้ง่าย
ถุงมือพลาสติกมีประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่ผิวค่อนข้างแพ้ง่าย ถุงมือจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้สารเคมี เช่น
น้ำยาล้างจานหรือจากการล้างขัดห้องน้ำ แต่การใส่ถุงมือพลาสติกนั้นทำให้รู้สึกเหนียวหนืดน่ารำคาญ มีวิธีแก้ คือ
เมื่อใช้เสร็จทุกครั้งให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ และนำไปตาก โดยใช้ไม้หนีบส่วนที่เป็นนิ้วไว้กับราว เมื่อถุงมือแห้ง
ห้โรยแป้งฝุ่นในถุงมือก่อนจะเก็บ เมื่อนำมาใช้ในครั้งต่อไปถุงมือก็จะสวมใส่ได้สบาย ไม่เหนียวหนืดสร้างความรำคาญอีก

ช่วยทำความสะอาดแว่นตา
ให้โรยแป้งทาตัวลงที่กระจกแว่นตาด้วยแล้วค่อย ๆ เช็ดถูด้วยผ้านุ่มๆ ในส่วนของซอกแว่นให้ใช้สำลีพันก้านชุบน้ำอุ่นที่เจือ
เมทิลแอลกอฮอล์สักหน่อย แว่นตาใสแจ๋วน่าใช้ขึ้นอีกมาก

ขจัดคราบไขมันบนเสื้อผ้าเวลาที่เสื้อผ้าเปื้อนคราบไขมัน เช่น น้ำมันปรุงอาหาร น้ำมันใส่ผม วิธีการแก้อย่างง่าย ๆ คือ โรยแป้งตรงบริเวณรอยเปื้อน
จากนั้นรีดด้วยเตารีดอุ่น ๆ หลาย ๆ ครั้ง ใช้แปรงปัดแป้งออกรอยคราบจะถูกแป้งดูดติดออกมาไม่เห็นรอยบนผ้าอีก

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

น้ำผลไม้เสริมความจำ

ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างองุ่นและบลูเบอร์รี่เป็นแหล่งอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า


แต่ประโยชน์ของผลไม้ทั้งสองชนิดไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะจากการศึกษาโดยทีมวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยซินซินนาติ สหรัฐอเมริกาพบว่า องุ่นพันธุ์คองคอร์ดและบลูเบอร์รี่ป่าช่วยให้ความจำดีขึ้นได้

ทีมวิจัยได้ทำการศึกษากับผู้สูงอายุ 2 กลุ่มที่มีปัญหาด้านความจำตามวัย พบว่ากลุ่มผู้สูงอายุ 12 คนที่ดื่มน้ำองุ่น คองคอร์ดเป็นประจำนาน 3 เดือนเริ่มมีความจำดีขึ้น เพราะน้ำองุ่นคองคอร์ดมีผลต่อการส่งสัญญาณประสาท กระตุ้นความจำ รวมทั้งมีสารโพลีฟีนอลที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบด้วย

ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุ 9 คนที่ดื่มน้ำบลูเบอร์รี่ป่าต่อเนื่องนาน 3 เดือน พบว่าความจำเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เพราะสารแอนโทไซยานินในบลูเบอร์รี่ป่าไปช่วยเพิ่มสัญญาณเส้นประสาทบริเวณสมองส่วนกลางและลดอัตราการเสื่อม ของเส้นประสาท

จากงานวิจัยทั้งสองชิ้นทำให้ได้ข้อสรุปว่า น้ำองุ่นและน้ำบลูเบอร์รี่ไม่เพียงแค่แก้กระหายเท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องสมองและความทรงจำได้อีกด้วย