วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เกมส์แข่งรถ



          เกมส์รถแข่ง มีมานานมากและเป็นที่นิยมกันถึงปัจจุบัน เด็กและวัยรุ่นไทยเริ่มเล่นเกมส์กันมากขึ้นทุกๆ ปีเพราะทุกวันนี้มีเกมส์ให้เลือกเล่นมากมายทั้ง เกมส์ รถ แข่ง เกมส์ปลูกผัก เกมส์ยิง แบบพูดกันได้เลยว่าเอาใจวัยรุ่นสุดๆ
                  ตอนนี้แทบทุกบ้านมีอินเตอร์เน็ตจะติดตั้งเพื่ออะไรก็แล้วแต่ๆ ก็ทำให้การเล่นเกมส์ก็งายยิ่งขึ้นหรือถึงแม้บางบ้านไม่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถเล่นได้ตามร้านอินเตอร์เน็ตทั่วไปและยิ่งเดี่ยวยิ่งมีเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเลยทำให้เด็กและเยาวชนติดเกมส์มากมายเกมส์แข่งรถก็เป็นอีกเกมส์หนึ่งที่ได้รับความนิยมอันดับต้นต้นเลยก็ว่าได้เพราะเกมส์แข่งรถเวลาที่เราเล่นมันทำเราเพลิดเพลินไปกับมันเล่นก็ง่ายไม่ยุ่งยาก และยังพัฒนาการเล่นให้สมจริงเปรียบเสมือนเราเป็นคนขับเองโดยมีพวงมาลัย เบรก คันเร่ง ให้เราบังคับได้ตามที่เราต้องการและในอนาคตอันไกล้เราอาจจะได้เห็นเกมส์แข่งรถที่มีการพัฒนาการเล่นให้สมจริงมากกว่านี้อีกแน่นอนแต่เสน่ห์ของเกมส์แข่งรถก็สามารถเล่นได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเกมส์แข่งรถจักยานยนต์ รถยนต์ เกมส์แต่งรถให้สวยงาม เกมส์แข่งรถวิบาก ทุกวันนี้ร้านอินเทอร์เน็ตก็มีการวางแผนทางการตลาดเพื่อเรียกลูกค้าโดยมีการจัดการแข่งขันมีเงินรางวัลให้สำหรับคนที่ชนะและมีอีกมากมายเสน่ห์ของเกมส์แข่งรถกับคนที่ชอบเล่นเกมส์นี้ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากตัวเองชอบแข่งรถหรือชอบกีฬาเกี่ยวกับความเร็วแต่ถึงจะยังไงปัญหาหลักของสังคมไทยที่มีอยู่ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็เกิดจากเด็กติดเกมส์ไม่ไปเรียนหนังสือหนีเรียนผลที่ตามมาก็ทำให้เรียนไม่จบและยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้น เด็กมั่วสุมกันและพากันเสพยาเสพติดและยังเป็นปัญหาที่มีอยู่ในสังคมเราทุกวันนี้ แต่ทางที่ดีเราควรแบ่งเวลาให้ถูกต้องอย่าเล่นจนเสียการเรียนการงาน

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การดูแลสีรถที่โดนแป้งเทศกาลสงกรานต์


คงจะไม่แปลกถ้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ รถของคุณ อาจจะขาวโพลนด้วยแป้งจากการละเล่นของผู้คน และด้วยเหตุนี้สถานบริการคาร์แคร์ต่างๆ คงจะแน่นเอียด ดังนั้นเราสามารถประหยัดทั้งเงินและเวลาด้วยการล้างรถเองที่บ้านด้วยเคล็ด ลับดีๆ วิธีป้องกันสีรถจากแป้งสงกรานต์ ต่อไปนี้

- อันดับแรก คือ เมื่อโดนแป้งบริเวณกระจกหน้าอย่ารีบใช้ที่ปัดน้ำฝนฉีดล้างขณะขับรถ เพราะ แป้งจะกระจายตัวเป็นคราบไปทั่วกระจก ซึ่งจะบดบังทัศนวิสัยขณะขับขี่ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก หากจำเป็นให้หาที่จอดข้างทางให้เรียบร้อย ใช้ที่ปัดน้ำฝนฉีดล้างให้สะอาดจึงออกเดินทางต่อ
- เมื่อกลับถึงบ้านต้องล้างฝุ่นละอองและคราบแป้งที่เกาะรถออกด้วยการฉีดน้ำสะอาดทั่วทั้งคัน
- ใช้น้ำยาสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ เพราะน้ำยาประเภทอื่นอาจจะทำให้ แว็กซ์เคลือบรถ จางลงและทิ้งคราบน้ำไว้บนรถได้
- ควรล้างคราบแป้งออกโดยเร็วที่สุด เพราะแป้งที่แห้งและโดนแสงแดดนานๆ จะเกาะสีรถและทำให้ลอกได้
- เริ่มล้างรถจากข้างบนไล่มาด้านข้างและสุดท้ายด้านล่างของรถซึ่งจะเป็นส่วนที่มีฝุ่น ดิน และสิ่งสกปรกสะสมมากที่สุด
- ใช้ไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์ เช็ดที่ปัดกระจกให้กลับมาสะอาดเหมือนใหม่
- ทำความสะอาดแผงหน้าปัดภายในด้วยการใช้ผ้าเปียกสีขาวเช็ด และเช็ดแห้งด้วยผ้าแห้งสีขาว
- ทำความสะอาดเบาะหนังด้วยการใช้ผ้าขนนุ่มชุบน้ำเปล่า หรือน้ำสบู่อ่อนๆ ค่อยๆเช็ด หรืออาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ


วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คำอธิษฐาน 10 ประการ

คำอธิษฐาน 10 ประการ

               1. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนคิดจะได้ดีอะไรอย่างลอย ๆ นั่งนอนคอยแต่โชควาสนา โดยไม่ลงมือทำความดีหรือไม่เพียรพยายามสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตน ถ้าข้าพเจ้าจะได้ดีอะไรก็ขอให้ได้เพราะได้ทำความดีอย่างสมเหตุผลเถิด

               2. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนลืมตนดูหมิ่นเหยียดหยามใคร ๆ ซึ่งอาจ ด้อยกว่าในทางตำแหน่ง ฐานะการเงิน หรือในทางวิชาความรู้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ให้เกียรติแก่เขาตามความเหมาะสมในการติดต่อเกี่ยวข้องกันเถิด อย่าแสดงอาการข่มขู่เยาะเย้ยใคร ๆ ด้วประการใด ๆ เลย ก็ขอให้มีความอ่อนโยน นุ่มนวล สุภาพเรียบร้อยเถิด

               3. ถ้าใครพลาดพลั้งลงในการครองชีวิตหรือต้องประสบความทุกข์ ความเดือดร้อนเพราะเหตุใด ๆ ก็ตาม ขออย่าให้ข้าพเจ้าเหยียบย่ำซ้ำเติมคนเหล่านั้น แต่จงมีความกรุณาหาทางช่วยเขาลุกขึ้น ช่วยผ่อนคลายความทุกข์ร้อนแก่เขาเท่าที่จะสามารถทำได้

               4. ใครก็ตามที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาเท่าเทียมหรือเกือบเท่าเทียมข้าพเจ้า ก็ดี มีความรู้ความสามารถหรือมีผลงานอันปรากฏดีเด่น สูงส่งอย่างน่านิยมยกย่องยิ่งกว่าข้าพเจ้า ขออย่าให้ข้าพเจ้ารู้สึก ริษยาหรือกังวลใจในความเจริญของผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย ขอให้ข้าพเจ้าพลอยยินดีในความดี ความรู้ความสามารถของบุคคลเหล่านั้นด้วยใจจริง ช่วยส่งเสริมสนับสนุนและให้กำลังใจแก่คนเหล่านั้น อันเข้าลักษณะการมีมุทิตาจิต ในพระพุทธศาสนา ซึ่งตรงกันข้ามกับความริษยา ขออย่าให้เป็นอย่างบางคน ที่เกรงนักหนาว่าคนอื่นจะดีเท่าเทียมหรือดียิ่งกว่าตน คอยหาทางพูดจาติเตียน ใส่ไคล้ให้คนทั้งหลายเห็นว่าผู้นั้นยังบกพร่องอย่างนั้นอย่างนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีน้ำใจสะอาด พูดส่งเสริมยกย่องผู้อื่นที่ควรยกย่องเถิด

               5. ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีน้ำใจเข็มแข็งอดทน อย่าเป็นคนขี้บ่นในเมื่อมีความยากลำบากอะไรเกิดขึ้น ขอให้มีกำลังใจต่อสู้กับความยากลำบากนั้น ๆ โดยไม่ต้องอ้อนวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วย ขออย่าเป็นคนอ่อนแอเหลียวหาที่พึ่ง เพราะไม่รู้จักทำตนให้เป็นที่พึ่งของตนเลย ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนชอบได้อภิสิทธิ์ คือสิทธิเหนือคนอื่น เช่น ไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ขอให้พอใจนั่งคอยตามลำดับ อย่าวุ่นวายจะเข้าตรวจก่อนทั้งที่ตนไปถึงทีหลัง ในการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกใด ๆ ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดหาวิธีลัดหรือวิธีทุจริตใด ๆ รวมทั้ง ขออย่าได้วิ่งเต้นเข้าหาคนนั้นคนนี้เพื่อให้เขาช่วยให้ได้ผลดีกว่าคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ข้าพเจ้าอาจมีคะแนนสู้คนอื่นไม่ได้เถิด

                6. ข้าพเจ้าทำงานที่ใด ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดเอาเปรียบหรือคิดเอาแต่ได้ในทางส่วนตัว เช่น เถลไถลไม่ทำงาน รีบเลิกงานก่อนกำหนดเวลา ขอจงมีความขยันหมั่นเพียร พอใจในการทำงานให้ได้ผลดีด้วยความตั้งใจและเต็มใจ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ฉะนั้นเถิด อันเนื่องมาแต่ความไม่คิดเอาเปรียบในข้อนี้ ถ้าข้าพเจ้าบังเอิญก้ำเกินข้าวของ ของที่ทำงานไปในทางส่วนตัวได้บ้าง เช่น กระดาษ ซอง หรือ เครื่องใช้ใด ๆ ขอให้ข้าพเจ้าระลึกอยู่เสมอว่าเป็นหนี้อยู่ และพยายามใช้หนี้คืนด้วยการซื้อใช้ หรือทำงานให้มากกว่าที่กำหนด เพื่อเป็นการชดเชยความก้ำเกินนั้น ข้อนี้รวมทั้ง ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเอาเปรียบชาติบ้านเมือง เช่น ในเรื่องการเสียภาษีอากร ถ้ารู้ว่ายังเสียน้อยไปกว่าที่ควร หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะชดใช้แก่ชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ เมื่อมีโอกาสตอบแทนเมื่อไรขอให้รีบตอบแทนโดยทันที เช่น ในรูปแห่งการบริจาคบำรุงโรงพยาบาล บำรุงการศึกษา หรือบริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์อื่น ๆ แบบบริจาคให้มากกว่าที่รู้สึกว่ายังเป็นหนี้ชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ และในข้อนี้ขอให้ข้าพเจ้าปฏิบัติแม้ต่อเอกชนใด ๆ ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดเอาเปรียบหรือโกงใครเลยแม้แต่น้อย แม้แต่จะซื้อของถ้าเขาถอนเงินเกินมา ก็ขอให้ข้าพเจ้ายินดีคืนให้เขากลับไปเถิด อย่ายินดีว่ามีลาภเพราะเขาทอนเงินเกินมาให้เลย

                7. ขอ อย่าให้ข้าพเจ้ามักใหญ่ใฝ่สูง อยากมีหน้ามีตา อยากมีอำนาจ อยากเป็นใหญ่เป็นโต ขอให้ข้าพเจ้าใฝ่สงบ มีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ ไม่ต้องเดือดร้อนในเรื่องการแข่งดีกับใคร ๆ ทั้งนี้เพราะข้าพเจ้าพอจะเดาได้ว่า ความมักใหญ่ใฝ่สูง ความอยากมีหน้ามีตา ความอยากมีอำนาจ และอยากเป็นใหญ่เป็นโตนั้น มันเผาให้เร่าร้อน ยิ่งต้องแข่งดีกับใคร ๆ ด้วยก็ยิ่งทำให้เกิดความคิดริษยา คิดให้ร้ายคู่แข่งขัน ถ้าอยู่อย่างใฝ่สงบมีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ ก็จะเย็นอกเย็นใจ ไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากถอนใจเพราะเกรงคู่แข่ง จะชนะ ไม่ต้องทอดถอนใจเพราะไม่สมหวัง ขอให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจซาบซึ้งใน พระพุทธภาษิตว่า "ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ละความชนะความแพ้เสียได้ ย่อมอยู่เป็นสุข" ดังนี้เถิด แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าเมื่อใฝ่สงบแล้ว ข้าพเจ้าจะต้องอยู่อย่างเกียจคร้านไม่สร้างความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ข้าพเจ้าทราบดีว่าพระพุทธศาสนามิได้สอนให้คนเกียจคร้านงอมืองอเท้า แต่สอนให้มีความบากบั่นก้าวหน้าในทางที่ดีไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม และความบากบั่นก้าวหน้าดังกล่าวนั้น ไม่จำเป็นต้องผูกพันอยู่กับความทะยานอยากหรือความมักใหญ่ใฝ่สูงใด ๆ คงทำงานไปตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ผลดีก็จะเกิดตามมาเอง

                8. ขอให้ข้าพเจ้าหมั่นปลูกฝังความรู้สึกมีเมตตาปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีกรุณาคิดจะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ซึ่งพระพุทธเจ้าแนะนำให้ปูพื้นจิตใจด้วยเมตตากรุณาดังกล่าวนี้อยู่เสมอ จนกระทั่งไม่รู้สึกว่ามีใครเป็นศัตรูที่จะต้องคิดกำจัดตัดรอนเข้าให้ถึงความพินาศ ใครไม่ดี ใครทำชั่วทำผิดขอให้เขาคิดได้กลับตัวได้เสียเถิด อย่าทำผิดทำชั่ว อีกเลย ถ้ายังขืนทำต่อไปก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาจะต้องรับผลแห่งกรรมชั่วของเขาเอง เราไม่ต้องคิดแช่งชักให้เขาพินาศ เขาก็จะต้องถึงความพินาศของเขาอยู่แล้ว จะต้องแช่งให้ใจเราเดือดร้อนทำไม ขอให้ความเมตตาคิดจะให้เป็นสุข และกรุณาคิดจะช่วยให้พ้นทุกข์ซึ่งข้าพเจ้าปลูกฝังขึ้นในจิตใจนั้น จงอย่าเป็นไปในวงแคบและวงจำกัด ขอจงเป็นไปทั้งในมนุษย์และสัตว์ทุกประเภท รวมทั้งสัตว์ดิรัจฉานด้วย เพราะไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์เหล่านั้น ต่างก็รักสุขเกลียดทุกข์ รู้จักรักตนเองปรารถนาดีต่อตนเองด้วยกันทั้งสิ้น

                9. ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นคนโกรธง่าย ต่างว่าจะโกรธบ้าง ก็ขอให้มีสติรู้ตัวโดยเร็วว่ากำลังโกรธ จะได้สอนใจตนเองให้บรรเทาความโกรธลง หรือถ้าห้ามใจให้โกรธไม่ได้ ก็ขออย่าให้ถึงกับคิดประทุษร้ายผู้อื่น หรือคิดอยากให้เขาถึงความพินาศ ซึ่งนับเป็นมโนทุจริตเลย ขอจงสามารถควบคุมจิตใจให้เป็นปรกติได้โดยรวดเร็วเมื่อมีความไม่พอใจหรือความ โกรธเกิดขึ้นเถิด และเนื่องมาจากความปรารถนาข้อนี้ ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นคนผูกโกรธ ให้รู้จักให้อภัย ทำใจให้ปลอดโปร่งจากการผูกอาฆาตจองเวร ขอให้มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยรู้จักเปรียบเทียบกับตัวข้าพเจ้าเองว่าข้าพเจ้าเองก็อาจทำผิด พูดผิด คิดผิด หรืออาจล่วงเกินผู้อื่นได้ ทั้งโดยมีเจตนาและไม่เจตนา ก็ข้าพเจ้าเองยังทำผิดได้ เมื่อผู้อื่นทำอะไรผิดพลาดล่วงเกินไปบ้าง ก็จงให้อภัยแก่เขาเสียเถิด อย่าผูกใจเจ็บหรือเก็บความรู้สึกไม่พอใจนั้นมาขังอยู่ในจิตใจให้เป็นพิษเป็น ภัยแก่ตัวเองเลย

               10. ขอให้ข้าพเจ้ามีความรู้ความเข้าใจและสอนใจตัวเองได้เกี่ยวกับ คำสอนของพระพุทธศาสนาทั้งทางโลกและทางธรรม กล่าวคือ พระพุทธศาสนาสอนให้รู้จักสร้างความเจริญแก่ตนในทางโลก และสอนให้ประพฤติปฏิบัติยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ให้มีปัญญาเข้าใจปัญหาแห่งชีวิต เพื่อจะได้ไม่ติดไม่ยึดถือ มีจิตใจเบาสบายอันเป็นความเจริญในทางธรรม ซึ่งรวมความแล้วสอนให้เข้ากับโลกได้ดี ไม่เป็นภัยอันตรายแก่ใคร ๆ แต่กลับเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ แต่ก็ได้สอนไปในทางธรรมให้เข้ากับธรรมได้ดี คือให้รู้จักโลก รู้เท่าโลกและขัดเกลานิสัยใจคอให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อบรรลุความดับทุกข์ ความพ้นทุกข์ ขอให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจทั้งทางโลกทางธรรม และปฏิบัติตนให้ถูกต้องได้ทั้งสองทาง รวมทั้งสามารถหาความสงบใจได้เองและสามารถแนะนำชักชวนเพื่อนร่วมชาติร่วมโลก ให้ได้ประสบความสุขสงบได้ตามสมควรเถิด.......”