วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มหัศจรรย์พลังรัก

ตอนนี้พลังรักของคุณยังเต็มเปี่ยมอยู่หรือเปล่า? ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร ก็อยากจะย้ำค่ะว่าพลังรักนั้นซับซ้อนน่ามหัศจรรย์มากกว่าแค่ตามองตา ใจถึงใจ หรือแค่กุมมือกันเท่านั้น


 
          ใช่แล้วค่ะ…เราจะพาคุณไปค้นหาความมหัศจรรย์ของ “พลังรัก” ที่อาจมองไม่เห็น แต่ก็สัมผัสได้ด้วยใจไปพร้อมๆ กัน
          เชื่อค่ะว่าคุณทุกคุณย่อมมีความรัก และเชื่ออีกว่าคุณต้องสัมผัสได้ถึงพลังของความรักได้ในหลายแง่มุม พลังรักทำให้สามีภรรยายิ้มให้กันวันเปี่ยมสุข กุมมือร้องไห้ในวันเศร้า สายใยความเป็นพ่อแม่ที่ทำให้ทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่คำว่าลูก คอยเฝ้าดูแลลูกน้อยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและหน่ายแหนง สายใยแห่งพี่น้องคลานตามกันที่บางวันแม้ไม่ได้ทำอะไรให้กันก็รู้ว่ารักกัน มากเพียงใด หรือแม้แต่การเข้าอกเข้าใจของเพื่อนรักที่ทำให้เรารู้สึกรักเพื่อนอย่าบอก ใคร ทั้งหมดเป็นเหตุจากพลังรักทั้งสิ้นค่ะ
         
          ถึงตรงนี้อยากให้คุณหลับตาสัก 15 วินาที แล้วลองคิดทบทวนกันว่าถ้าโลกนี้ไม่มีพลังรักจะเกิดอะไรขึ้น เราจะเป็นอย่าง โลกจะเป็นอย่างไร…
          คุณรู้สึกเหมือนฉันไหมคะ…รู้สึกเหลือเกินว่าเหมือนอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำว่าพ่อแม่พี่น้อง สายใยรักคืออะไร สื่อสารกันไปทำไม ผูกพันกับใครเพื่ออะไร ที่น่ากลัวคือฉันเห็นสงคราม ความอดอยาก และเด็กผอมแห้งที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งตามยถากรรม
          โชคดีที่ความรักไม่ได้หายไปไหน รู้สึกอยากขอบคุณใครหรืออะไรก็ตามที่สร้างพลังรักให้กับโลกเรานี้เหลือเกินค่ะ
แต่ถ้าใครหลงลืมพลังรักไปแล้ว อยากให้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ค่ะ
          เรื่องของทรูแมน ดันแคน ชายวัย 38 ปี ชาวเท็กซัส …
          …วันนั้น ดันแคนถูกรถไฟน้ำหนักกว่า 20,000 ปอนด์ หรือประมาณ 9,000 กิโลกรัม ทับและเกือบกระชากวิญญาณออกจากร่างไปในทันที ขาทั้งสองข้างขาดออกจากตัว กระดูกเชิงกรานและไตเสียหายหนัก แต่เขาก็เรียกสติกลับมาและโทรเรียก 911 มาช่วยยื้อชีวิตที่ไม่รู้ว่าจะเหลืออีกกี่นาที
          …วันนี้ ดันแคนหายดีแล้วค่ะ แต่ต้องนั่งรถวีลแชร์ไปตลอดชีวิต ซึ่งเขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายกับขาที่หายไป หากแต่ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้เขารอดชีวิตเพื่อเห็นลูกเติบโต เพื่อได้แสดงให้ลูกรู้ว่าเขารักลูกมาแค่ไหน ขณะเดียวกันเขาก็ยังบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยการช่วยทหารที่พิการขาขาดให้หลุดพ้นจากห้วงความทุกข์ ซึ่งเขามักพูดเสมอว่า “การมีชีวิตอยู่นั้นดีเสมอ”
          กรณีนี้ทำให้ฉันนึกถึงประสบการณ์ของตัวเองค่ะ แต่ต่างกันตรงที่ฉันอยู่ในฐานะลูกที่กำลังจะเสียพ่อไป…
          เมื่อหลายเดือนก่อนพ่อของฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เข้าขั้นโคม่า คุณหมอบอกว่า พ่อเสียเลือดมาก สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ตอบไม่ได้ว่าจะมีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์
          …วันนั้น ฉันเฝ้าถามใครสักคนที่อาจกุมชะตาชีวิตเราอยู่ว่าทำไมไม่เป็นฉัน ฉันรักพ่อ ตายแทนพ่อได้ ให้ฉันตายยังดีกว่าพ่อต้องมาเป็นอย่างนี้ และวันนั้นเองทำให้ภาพความรักที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับพ่อตั้งแต่ตอนเป็น เด็กย้อนกลับมาเป็นฉากๆ เคยขี่คอพ่อ เคยนอนนับดาวด้วยกัน เคยหัวเราะกับเรื่องตลกที่พ่อเล่า ฯลฯ
          ฉันรักพ่อเหลือเกิน รักสุดหัวใจ และก็อีกนั่นแหละ ไม่ใช่แค่ฉันที่ทุกข์ทน อีกคนที่ดูแก่และโทรมไปถนัดตาก็คือแม่ ครั้งล่าสุดที่ฉันเจอท่านทั้งสอง พ่อกับแม่ไม่ค่อยคุยกัน อยู่แบบใครใคร่ทำอะไรทำ ฉันรับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป แต่เมื่อพ่อมาเป็นอย่างนี้ แม่ร้องไห้ คอยเฝ้าพ่ออยู่ไม่ห่าง นั่นทำให้ฉันรู้ว่าพลังรักที่แม่มีต่อพ่อนั้นมีมากไม่ต่างจากฉัน
          …วันนี้ พ่อหายเป็นปกติแล้ว แม้แต่คุณหมอเจ้าของไข้ยังบอกว่าไม่น่าเชื่อ… ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าเพราะความใจสู้อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อของพ่อ หรือเพราะปาฏิหาริย์แห่งรักของฉันและแม่ที่สื่อถึงพ่อกันแน่จึงทำให้พ่อฟื้น เป็นปกติ
          อย่างไรก็ตาม ฉันอยากขอบคุณเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ทำให้พลังรักของพวกเรากลับคืน ขอบคุณที่ช่วยเพิ่มพลังรักให้กับพ่อแม่ ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้ว่าพลังรักของฉันยังมีให้กับพ่อแม่มากมายแค่ไหน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ขออย่าให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเสียดีกว่าค่ะ เพราะอย่างไร พลังรักของเราก็คุกรุ่นในใจอยู่แล้ว เพียงแต่บ่อยครั้งที่เรามักลืมนึกถึงพลังรักที่ควรมีให้แก่กันเท่านั้น
          และที่ฉันอยากจะบอกกับคุณก็คือ พลังรักนั้นไม่ได้หายไปไหน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรากลับหลงลืม และเลือกที่จะไม่ใส่ใจมากกว่า เพราะฉะนั้น อย่ารอให้เหตุการณ์เลวร้ายมาช่วยเรียกพลังรักให้กลับคืน หากแต่หมั่นเติมพลังรักให้กันและกันทุกวัน และตระหนักเสมอว่าพลังรักนั้นสวยงามและสร้างความสุขให้กับคุณมากขนาดไหนกัน ดีกว่าค่ะ

พลังรักทำอะไรกับคุณไว้?
          ทฤษฏีของจอห์น ลีซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง สรุปรักออกเป็น 6 รูปแบบ ได้แก่…
          1. Eros เป็นรักแรกพบ เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน และคิดว่าจะมีแต่เรื่องสวยงามเข้ามาในชีวิต โดยไม่มองความเป็นจริง 
          2. Ludus รักหลีกเลี่ยงความผูกพันลึกซึ้ง ต้องการอิสระ ไม่ชอบผูกมัด
          3. Storge รักแบบมิตรภาพ ความรักค่อยๆ พัฒนาจากความเป็นเพื่อนมาสู่คู่ชีวิต เป็นความรู้สึกรักใคร่อันเนื่องมาจากการคบหากันมาเป็นเวลานาน
          4. Pragma รักที่เกิดจากการมองหาคู่ครองที่เหมาะสมกับตนมากที่สุด ใช้สมองมากกว่าหัวใจ คาดหวังความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
          5. Mania รักที่มีแต่ความหึงหวง ต้องการครอบครอง เป็นรักที่มีพลังรุนแรง ผู้ที่อยู่ในปรักแบบนี้มักทำทุกทางเพื่อให้ได้ความรัก
          6. Agape เป็นรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ให้โดยไม่หวังความรักตอบ มีแต่ความห่วงใยต้องการให้คนรักมีความสุข รักแบบนี้ได้แก่รักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกค่ะ
          แต่เวลาที่เราพูดถึงพลังแห่งความรัก มักไม่ใช่รักแรกพบของหนุ่มสาว หรือรักของคู่รักค่ะ… ทำไมพลังความรักของพ่อแม่ถึงเปี่ยมไปด้วยการทำทุกอย่างเพื่อลูก เสียสละเพื่อให้ลูกมีความสุขแม้ว่าเส้นทางนั้นจะทุกข์ทรมานสักเพียงใด ทำไมรักของพ่อแม่จึงไม่มีวันหมด และไม่เคยเห็นแก่ตัว แล้วเคยสงสัยมั้ยคะว่าสายใยที่มองไม่เห็นระหว่างสามีภรรยาบางคู่ถึงได้แน่น แฟ้นจนหาสิ่งไหนมาทำให้ขาดจากกันไม่ได้ มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันค่ะ
          ย้อนไปตอนแรกรัก ยังจำตอนที่ตกหลุมรักกันใหม่ๆ ได้มั้ยคะ อะไรที่ทำให้คุณยอมจำนนกับพ่อของลูก หรือแม่ของลูกคนนี้?
          คุณอาจคิดว่า เพราะเธอตาสวย หรือเพราะเขาเป็นคนใจดี มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ หรืออาจคิดว่าพลังแห่งรักครั้งนั้นเกิดขึ้นเพียงแค่ตาสบตาหัวใจก็บอกว่าใช่ เลยก็ได้ แต่จริงๆ แล้วความมหัศจรรย์ของเรื่องราวทั้งหมดมาจากสมองทั้งสิ้นค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น